วันพุธที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Visual Acuity หรือ การตรวจวัด VA



การวัดระดับสายตา
(Visual Acuity หรือ การตรวจวัด VA ) 


เครื่องมือที่ใช้วัด


 หลักในการวัดสายตา
  1. ตรวจทีละตา
  2. - ให้ผู้ป่วยอยู่ที่ระยะ 6 เมตร หรือ 20 ฟุตห่างจากแผ่นทดสอบ  จากนั้นเริ่มอ่านตัวทดสอบจากบนสุด (ตัวโตสุด) ลงมาเรื่อยๆที่ละแถวจนถึงตัวเล็กที่สุดเท่าที่อ่านได้ บันทึกค่าไว้ เช่น หากอ่านได้ถูกต้องสองแถว เท่ากับ VA 6/36 หมายความว่า ผู้ป่วยมองเห็นที่ระยะ 6 เมตร ในขณะที่คนปกติเห็นที่ระยะ 36 เมตร หรือหากอ่านได้จนถึงแถว 6/6 หมายความว่า ผู้ป่วยเห็นที่ระยะ 6 เมตร และคนปกติเห็นที่ 6 เมตรเช่นกัน 
  3. - หากผู้ป่วยอ่านไม่ได้ถึงแถว 6/6 ให้สวมแว่นสายตาอ่านหากมีแว่นสายตาอยู่ หรืออ่านผ่าน พินโฮล ( pinhole ) เช่น หากตาเปล่าอ่านได้แถวเดียว เมื่อสวมแว่นอ่านได้สองแถว และเมื่อมองผ่าน pinhole แล้วอ่านได้ปกติ ให้บันทึกว่า 
VA 6/60 อ่านรอบที่1  ถ้าอ่านไม่ได้ในแถว 6/6  ทุกกรณีต้องอ่านผ่านพินโฮลทุกราย
VA c PH 6/6(c PH = with pinhole)   อ่านรอบที่2 อ่านผ่านพินโฮล  ผลการอ่านจะต้องดีกว่าอ่ายตาเปล่าเสมอ
  1. - หากที่ระยะ 6 เมตรไม่สามารถอ่านแถวที่อยู่บนสุดได้ ให้ค่อยๆขยับเข้าไปใกล้ที่ละ เมตร หากอ่านได้ที่ระยะ 5 เมตร ให้บันทึกว่า VA 5/60 หรือหากอ่านได้ที่ระยะ 1 เมตร เท่ากับ VA 1/60 เป็นต้น 
  2. - ถ้าอยู่ห่าง chart ที่ 1 เมตรแล้วยังอ่านไม่ได้ให้ผู้ตรวจ ชูนิ้วมือไว้หน้าตาผู้ป่วยแล้วถามว่าเห็นกี่นิ้ว เช่นหากนับนิ้วได้ถูกต้องที่ระยะ 2 ฟุตให้บันทึกว่า FC 2 ft.(FC = counting finger), หรือ หากนับได้ที่ระยะ 1 ฟุตให้บันทึกว่า FC 1 ft 
  3. – หากนับนิ้วไม่ได้แสดงว่าสายตามัวมาก ให้แกว่งมือหน้าตาผู้ป่วยแล้วถามว่าเห็นอะไรเคลื่อนไหวหรือไม่ ถ้าเห็น ให้บันทึกเป็น HM (hand movementอ่านว่าแฮนมูฟเม้น คือการเคลื่อนไหวของมือ) ควรระวังไม่แกว่งมือไปโดนคิ้ว หรือขนตาผู้ป่วย 
  4. - หากมองไม่เห็นวัตถุเคลื่อนไหว ให้ใช้ไฟฉายส่องหน้าตาผู้ป่วย แล้วถามว่าเห็นไฟ หรือไม่ ถ้าเห็นแสงจากไฟที่ส่อง แต่ไม่สามารถบอกทิศทางของแสงไฟ ให้บันทึกว่า PL (perception of light) หากสามารถบอกทิศทางของแสงที่ส่องมาจากทิศต่างๆ ได้ถูกต้องให้บันทึกว่า PJ (projection of light) 
  5. - แต่ถ้ามองไม่เห็นแสงไฟที่ส่องเลย ให้บันทึกว่า No PL (no light perception) บ่งว่าบอดสนิท อย่างไรก็ตามการทดสอบควรใช้ไฟที่มีความสว่างที่สุด ก่อนที่จะระบุว่า No PL 
การบันทึกผลการวัดระดับสายตา 
  1. สามารถบันทึกได้หลายแบบ โดยทั่วไปมักบันทึกเป็นสัดส่วน เช่น 6/6(ระบบเมตริก) หรือ 20/20 (ระบบฟุต) โดยสรุป ลำดับสายตาจากปกติไปจนมองไม่เห็น (ระบบเมตริก) 
6/6    ความหมาย  ผู้ป่วยเห็นที่ระยะ 6 เมตร  และคนปกติเห็นที่ 6 เมตรเช่นกัน
 6/9   ความหมาย  ผู้ป่วยเห็นที่ระยะ 6 เมตร  และคนปกติเห็นที่ 9 เมตร
6/12  ความหมาย  ผู้ป่วยเห็นที่ระยะ 6 เมตร  และคนปกติเห็นที่ 12 เมตร
6/18  ความหมาย  ผู้ป่วยเห็นที่ระยะ 6 เมตร  และคนปกติเห็นที่ 18 เมตร
6/24  ความหมาย  ผู้ป่วยเห็นที่ระยะ 6 เมตร  และคนปกติเห็นที่ 24 เมตร
6/36  ความหมาย  ผู้ป่วยเห็นที่ระยะ 6 เมตร  และคนปกติเห็นที่ 36 เมตร
6/60   ความหมาย  ผู้ป่วยเห็นที่ระยะ 6 เมตร  และคนปกติเห็นที่ 60 เมตร
  1. หากอ่านไม่ได้ในระยะ 6 เมตร ให้ขยับเข้ามาครั้งละ 1 เมตร  เช่น
อ่านได้ที่ระยะ 5 เมตร  บันทึก VA 5/60
อ่านได้ที่ระยะ 4 เมตร  บันทึก VA 4/60
อ่านได้ที่ระยะ 3 เมตร  บันทึก VA 3/60
อ่านได้ที่ระยะ 2 เมตร  บันทึก VA 2/60
อ่านได้ที่ระยะ 1 เมตร  บันทึก VA 1/60  
  1. ถ้าในระยะที่ 1 เมตรแล้วยังอ่านไม่ได้  ให้นับจำนวนนิ้ว  
FC (counting finger) ความหมาย ทดสอบจำนวนนิ้วมือที่ผู้ป่วยมองเห็น  การบันทึก
หากนับนิ้วได้ถูกต้องที่ระยะ 2 ฟุต  ให้บันทึกว่า FC 2 ft
หากนับนิ้วได้ถูกต้องที่ระยะ 1 ฟุต  ให้บันทึกว่า FC 1 ft
  1. หากนับนิ้วไม่ได้ให้แกว่งมือหน้าผู้ป่วยแล้วถามว่าเห็นอะไรเคลื่อนไหวหรือไม่  การบันทึก
ถ้าเห็น  ให้บันทึกเป็น HM ( Hand movement ) 
  1. ถ้ายังไม่เห็นให้ใช้ไฟฉายส่องหน้าตาผู้ป่วย

การบันทึก  ถ้าผู้ป่วยสามารถบอกทิศทางของแสงที่ส่องมาจากทิศต่างๆได้ให้บันทึก  PJ (projection of light)  แต่ถ้ามองเห็นแต่ไม่สามารถบอกทิศทางได้  บันทึก PL (Perception of light )   แต่ถ้ามองไม่เห็นเลยให้บันทึก No PL (no light perception หรือ total blindness) แสดงว่าตาบอดสนิท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น